Abstract:
การคิดอย่างมีวิจารณญาณเป็นทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นมาตรฐานการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ การสอนแบบจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคจิ๊กซอว์ 2 จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้อย่างบูรณาการและสามารถเชื่อมโยงความรู้ทางวิชาการให้สอดคล้องกับการเรียนทั้งภาคทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติในคลินิก การวิจัย ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนในรายวิชาหัตถเวชกรรมแผนไทย 3: โรคเกี่ยวกับระบบสตรี และศึกษาผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาที่มีผลต่อวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคจิ๊กซอว์ 2 ต่อความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักศึกษาสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ สำนักวิชาการแพทย์บูรณาการ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 33 คน โดยใช้แบบสอบถามคุณลักษณะของผู้ ที่มีการคิดอย่างมีวิจารณญาณคุณลักษณะของผู้ที่มีการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม แบบประเมินรูปแบบการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินความพึงพอใจ การวิจัยในครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินการ 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นเตรียมเนื้อหา 2) ขั้นจัดกลุ่มผู้เรียน 3) ขั้นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ (Expert group) ศึกษาค้นคว้าและเรียนรู้ 4) ขั้นสมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนำเสนอความรู้ 5) ขั้นทดสอบความรู้ 6) ขั้นมอบรางวัล ผลการศึกษาพบว่า ผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคจิ๊กซอว์ 2 มีผลต่อความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณในรายวิชาหัตถเวชกรรมแผนไทย 3: โรคระบบสตรี มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคจิ๊กซอว์ 2 คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ (28.12 ± 2.30) คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ (38.24±2.46) เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05)
