การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลระหว่างการฉีดโบทูลินั่มท็อกซิน ชนิดเอ ร่วมกับการทา 5% ไมนอกซิดิล เทียบกับการทา 5% ไมนอกซิดิลเพียงอย่างเดียว ในการรักษาภาวะผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมน

Abstract

วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลระหว่างการฉีดโบทูลินั่มท็อกซิน ชนิดเอ ร่วมกับการทา 5% ไมนอกซิดิล เทียบกับการทา 5% ไมนอกซิดิลเพียงอย่างเดียว ในการรักษาภาวะผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมน วิธีการศึกษา: การศึกษาแบบสุ่มโดยแบ่งศีรษะเป็นสองข้าง ปกปิดข้อมูลสองทาง ในอาสาสมัครเพศชายจำนวน 13 คน อายุ 20-45 ปี ที่มีภาวะผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมนระดับ 2-4 ตามเกณฑ์ของ Norwood-Hamilton โดยศีรษะข้างหนึ่งจะได้รับการฉีดโบทูลินั่มท็อกซิน ชนิดเอ (50 ยูนิต) ในขณะที่อีกข้างจะได้รับการฉีดน้ำเกลือความเข้มข้น 0.9% และทา 5% ไมนอกซิดิล ในทั้งสองข้าง วันละ 2 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 12 สัปดาห์ ประเมินผลจากจำนวนและความหนาแน่นของเส้นผม คะแนนประเมินเส้นผมจากภาพถ่ายโดยรวม คะแนนความพึงพอใจของอาสาสมัคร และอาการไม่พึงประสงค์หลังการรักษา ผลการศึกษา: ข้างที่ได้รับการฉีดโบทูลินั่มท็อกซิน ชนิดเอ ร่วมกับการทา 5% ไมนอกซิดิล มีจำนวนและความหนาแน่นของเส้นผมมากกว่าข้างที่ทา 5% ไมนอกซิดิลเพียงอย่างเดียว อย่างมีนัยสำคัญที่สัปดาห์ที่ 8 (p < 0.001) และสัปดาห์ที่ 12 (p < 0.001) โดยในสัปดาห์ที่ 12 ข้างที่ได้รับ โบทูลินั่มท็อกซิน ชนิดเอ ร่วมกับการทา 5% ไมนอกซิดิล มี global photographic score ที่ระดับดีสูงกว่าข้างที่ทา 5% ไมนอกซิดิลเพียงอย่างเดียว (p = 0.04) นอกจากนี้ ยังพบว่า กลุ่มที่ได้รับโบทูลินั่มท็อกซิน ชนิดเอ ร่วมกับการทา 5% ไมนอกซิดิล มีความพึงพอใจในระดับสูงมากถึงร้อยละ 69.2 และไม่พบอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดโบทูลินั่มท็อกซิน และการทา 5% ไมนอกซิลดิลในทั้งสองข้าง สรุปผล: การฉีดโบทูลินั่มท็อกซิน ชนิดเอ ร่วมกับการทา 5% ไมนอกซิดิล มีประสิทธิผลช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผมในเพศชายที่มีภาวะผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมนที่สัปดาห์ที่ 8 และ 12 โดยไม่พบอาการไม่พึงประสงค์เมื่อเทียบกับข้างที่ได้รับ 5% ไมนอกซิดิลเพียงอย่างเดียว