Abstract:
การวิจัยเรื่อง การศึกษาวิเคราะห์ร่างพระราชบัญญัติจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาพัฒนาการ ปัญหา และอุปสรรคของการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบหลักกฎหมายการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศกับร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... 3) เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะต่อร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... การวิจัยนี้ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยผสมผสานกระบวนทั้งการวิจัยเชิงเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสนทนากลุ่ม โดยผลการศึกษาพบว่า ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะดังเช่นในต่างประเทศ อาทิ สหภาพยุโรป สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประเทศญี่ปุ่น การจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ จึงต้องนำกฎหมายที่มีอยู่มาปรับใช้ ซึ่งไม่ครอบคลุมวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ฯ และมีประสิทธิภาพเพียงพอ กรมควบคุมมลพิษจึงดำเนินการยกร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... ภายใต้แนวคิดของหลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility: EPR) ตามแนวทางของต่างประเทศ อย่างไรก็ดี คณะผู้วิจัยเห็นว่า ร่างฯ ดังกล่าว ยังมีประเด็นที่ควรแก้ไขเพิ่มเติมบางประการ อาทิ การกำหนดขอบเขตบังคับใช้ บทนิยาม กลไกในการกำกับดูแล และบทกำหนดโทษ จึงเสนอแนวทางให้กำหนดชนิดและประเภทผลิตภัณฑ์ฯ ปรับปรุงบทนิยามผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จัดจำหน่าย เพิ่มเติมโครงสร้างของคณะกรรมการและกองทุน รวมไปถึง เพิ่มเติมบทบัญญัติในการกำหนดเป้าหมายการเก็บรวบรวม การขึ้นทะเบียนผู้เกี่ยวข้อง การจัดตั้งศูนย์รับคืนที่เอื้อต่อผู้ประกอบการอิสระ นอกจากนี้ ควรมีการศึกษาวิจัยศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและโรงงานจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ เพิ่มเติม รวมไปถึงการส่งเสริมแนวคิดการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความตระหนักรู้แก่ทุกภาคส่วนในการจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ ที่ถูกต้องตามหลักวิซาการ อันจะส่งผลดีต่อสุขอนามัยของประชาชนและระบบนิเวศ ทั้งยังเป็นการสร้างความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อม (Environmental Justice) ต่อประเทศและสังคมโดยรวม