การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลระหว่างการฉีดโบทูลินุมทอกซินเอเข้าใต้ผิวหนังร่วมกับยาทารักษาสิวมาตรฐานเทียบกับยาทารักษาสิวมาตรฐานเพียงอย่างเดียวในการรักษาสิวบริเวณคางในวัยผู้ใหญ่

Abstract

สิวเป็นโรคผิวหนังที่พบบ่อยและมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ที่มักพบสิวบริเวณคางและแนวกราม ปัจจัยสำคัญในการเกิดสิว ได้แก่ การผลิตซีบุมที่มากเกินไป การอักเสบของรูขุมขนและการหนาตัวของเซลล์ผิวหนังที่ปากรูขุมขน โบทูลินุมทอกซินเอ (Botulinum toxin type A) ซึ่งเป็นสารที่สามารถยับยั้งการหลั่งอะเซทิลโคลีน อาจมีบทบาทในการลดการทำงานของต่อมไขมันและการอักเสบ จึงมีศักยภาพในการช่วยลดสิวโดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับการรักษามาตรฐาน การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพของการฉีดโบทูลินุมทอกซินเอใต้ผิวหนัง (intradermal injection) ร่วมกับการใช้ยาทาสิวมาตรฐานในการลดจำนวนสิว ระดับความมัน และเพิ่มความ พึงพอใจของผู้ป่วย โดยใช้การวิจัยเชิงทดลองทางคลินิกแบบไปข้างหน้ามีกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมคนละกลุ่มเลือกใช้การรักษาแบบสุ่มโดยปกปิดผู้ประเมิน อาสาสมัครที่เข้าร่วมได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นสิวอักเสบความรุนแรงน้อยถึงปานกลางที่บริเวณคาง อายุ 18-50 ปี จำนวน 24 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มทดลองได้รับการฉีดโบทูลินุมทอกซินเอใต้ผิวหนังร่วมกับการทายา 5% Benzoyl peroxide และ Clindamycin gel เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ได้รับเฉพาะยาทา ประเมินผลลัพธ์ที่ 1, 2, 4, 8 และ 12 สัปดาห์ โดยวัดจำนวนสิวแต่ละชนิด ระดับความมัน และคะแนนความพึงพอใจ ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มที่ได้รับโบทูลินุมทอกซินเอมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนสิวหัวปิดลดลงอย่างมีนัยสำคัญในสัปดาห์ที่ 2 และ 4 และสิวชนิดตุ่มนูนลดลงในสัปดาห์ที่ 1 และ 2 เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม ระดับความมันบริเวณคางลดลงมากในกลุ่มฉีดยาในทุกช่วงเวลา และผู้ป่วยมีความพึงพอใจสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตามไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง สรุปได้ว่า การฉีดโบทูลินุมทอกซินเอใต้ผิวหนังร่วมกับยาทาสิวมาตรฐานสามารถช่วยลดจำนวนสิวบางชนิดและความมันซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวบริเวณคางได้เร็วขึ้นโดยเฉพาะช่วงแรกของการรักษา ช่วยเพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วย และมีความปลอดภัย อาจพิจารณาในรายที่ต้องการฉีดลดริ้วรอยร่วมด้วยเพื่อความคุ้มค่าของการใช้โบทูลินุมทอกซินเอ