Abstract:
งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกสมัครของเจเนอเรชัน ซี (Generation Z) โดยใช้ปัจจัยจูงใจ ปัจจัยค้ำจุนในการทำงาน และปัจจัยด้านวัฒนธรรมองค์กรเป็นตัวแปรอิสระ และใช้การวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุ (Multiple Linear Regression) ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยจูงใจที่มีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ ความรับผิดชอบในงานที่ทำ (β = 0.174, Sig. = 0.007) และความสำเร็จในการทำงาน (β = 0.173, Sig. = 0.003) ในขณะที่ปัจจัยค้ำจุนในการทำงานที่ส่งผลต่อการเลือกสมัครงาน ได้แก่ ชื่อเสียงขององค์กร (β = 0.309,
Sig. = 0.000) และความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน (β = 0.166, Sig. = 0.001) สำหรับปัจจัยด้านวัฒนธรรมองค์กร พบว่า ลักษณะของวัฒนธรรมองค์กร (β = 0.284, Sig. = 0.000) และนโยบาย วิสัยทัศน์ พันธกิจขององค์กร (β = 0.208, Sig. = 0.001) มีผลเชิงบวกต่อการเลือกสมัครงาน
ทั้งนี้ ผลการวิจัยสะท้อนให้เห็นว่า ปัจจัยจูงใจสามารถอธิบายการเลือกสมัครงานของกลุ่มตัวอย่างได้ ร้อยละ 45.30 (R² = 0.453) ขณะที่ปัจจัยค้ำจุนในการทำงานมีอิทธิพลสูงสุด โดยสามารถอธิบายพฤติกรรมการเลือกสมัครงานได้ถึง ร้อยละ 59.20 (R² = 0.592) ส่วนปัจจัยด้านวัฒนธรรมองค์กรมีอิทธิพลในระดับใกล้เคียงกันที่ ร้อยละ 55.60 (R² = 0.556) ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า เจเนอเรชัน ซี ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงขององค์กร ความสัมพันธ์ในที่ทำงาน และค่านิยมองค์กรที่สอดคล้องกับตนเอง องค์กรที่ต้องการดึงดูดและรักษาบุคลากรรุ่นใหม่ไว้ในระยะยาวจึงควรให้ความสำคัญกับปัจจัยเหล่านี้ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ตอบโจทย์ความคาดหวังและแรงจูงใจของแรงงานรุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริง