Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้วัตถุประสงค์ที่จะศึกษาเกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฎี และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจากการทำรัฐประหาร พบว่า ในอดีตการรัฐประหารเป็นเพียงการยึดอำนาจรัฐจากรัฐบาล หรือเปลี่ยนตัวผู้นำเท่านั้น โครงสร้างการปกครองตลอดจนเศรษฐกิจสังคมยังคงเดิมหรืออาจแย่ลงกว่าเดิม และเป็นตัวการสำคัญอย่างยิ่งในสังคมโลกปัจจุบันที่กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน (สิทธิเสรีภาพและสิทธิทางการเมือง) อย่างร้ายแรงของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศและเป็นวงจรอุบาทว์ (ชั่วร้าย) ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานและไม่มีท่าที่ว่าจะสิ้นสุดลงแต่อย่างใดในอนาคตอันใกล้
จากการศึกษาพบว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชนในสังคมโลกอันเนื่องมาจากการทำรัฐประหารและหรือการกระทำอื่นใดที่เป็นการสนับสนุนการทำรัฐประหารต่อประชาชนภายในประเทศทั่วโลกกว่า 106 ประเทศ นับตั้งแต่ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงปัจจุบัน (ค.ศ. 2024) ยาวนานถึง 79 ปี มีการทำรัฐประหารมากถึง 599 ครั้ง (โดยเฉลี่ยประมาณ 7-8 ครั้งต่อปี) ที่แสดงให้เห็นถึง
ความร้ายแรงและผลกระทบต่าง ๆ จากการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนภายในประเทศที่เกิดจากการทำรัฐประหารของกลุ่มบุคคล/บุคคลที่ทำการรัฐประหาร รวมถึงประเทศที่ให้การสนับสนุนหรือรับรองรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหารที่ถือเป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้การรัฐประหารประสบความสำเร็จ และพบว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสังคมโลกยังไม่คิดที่จะหาแนวทางและ/หรือมาตรการที่มีประสิทธิและประสิทธิผลเพื่อบังคับยับยั้งมิให้เกิดการทำรัฐประหารขึ้นอีก
ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงเสนอแนวทางและมาตรการระดับระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว คือ (1) มาตรการเพื่อหยุดยั้งและป้องกันมิให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงอันเนื่องมาจากการทำรัฐประหารและ (2) กรณีห้ามการรับรองรัฐบาลที่มาจากการกระทำรัฐประหาร เพื่อเป็นการคุ้มครองและแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการทำรัฐประหารและหรือ
การกระทำอื่นใดที่เป็นการสนับสนุนการกระทำรัฐประหารอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ในอนาคต