Abstract:
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเตรียมโพลิแซ็กคาไรด์และโพลิแซ็กคาไรด์ไฮโดรไลเสทด้วยวิธีการทางเอนไซม์จากเห็ดนางฟ้าภูฐาน โดยเริ่มจากทำการสกัดโพลิแซ็กคาไรด์จากเห็ดนางฟ้า
ภูฐานด้วยน้ำร้อนพบว่า ได้ผลผลิตมากที่สุด คือ ร้อยละ 5.76±0.15 โดยน้ำหนัก และเมื่อนำไปวิเคราะห์หาปริมาณเบต้ากลูแคนพบว่า มีปริมาณเบต้ากลูแคนอยู่ที่ร้อยละ 17.19±2.8 โดยน้ำหนัก และเมื่อนำสารสกัดโพลิแซ็กคาไรด์ที่ได้ มาทำการย่อยด้วยเอนไซม์ เอนโด 1,3 เบต้า-ดี-กลูคาเนส โดยใช้ปริมาณความเข้มข้นของยูนิตที่แตกต่างกัน ได้แก่ 10, 20 และ 30 ยูนิต ตามลำดับ โดยจะได้
สารสกัดมาเป็น โพลิแซ็กคาไรด์ไฮโดรไลเสท และโพลิแซ็กคาไรด์ไฮโดรไลเสทฟิลเตรท และจากผลที่ได้นั้นพบว่า ปริมาณเอนไซม์ที่ใช้ในการสกัด ไม่มีผลต่อผลผลิตของโพลิแซ็กคาไรด์ไฮโดรไลเสท และโพลิแซ็กคาไรด์ไฮโดรไลเสทฟิลเตรท ซึ่งผลที่ได้จะอยู่ในช่วงร้อยละ 16.67±2.8, ร้อยละ 18.67±1.15, ร้อยละ 66.83±4.6 และร้อยละ 68.33±3.30 โดยน้ำหนักตามลำดับ และหลังจากการย่อยด้วยเอนไซม์เอนโด 1,3 เบต้า-ดี-กลูคาเนสแล้ว ได้นำไปวิเคราะห์คุณสมบัติต่าง ๆ โดยพบว่า ปริมาณคาร์โบไฮเดรตทั้งหมดและปริมาณน้ำตาลรีดิวซ์ของสารสกัด มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) และจากการวิเคราะห์องค์ประกอบสารด้วยเทคนิคโครมาโตกราฟีผิวบางพบว่า สารสกัด
โพลิแซ็กคาไรด์ไฮโดรไลเสทมีขนาดของโมเลกุลที่ใหญ่ ในขณะที่โพลิแซ็กคาไรด์ไฮโดรไลเสทฟิลเตรทจะมีขนาดของโมเลกุลที่เล็กกว่า นอกจากนี้พบว่า ผลของการวัดค่าความสามารถของการต้านอนุมูลอิสระแสดงให้เห็นว่า สารสกัดที่ได้มีค่าที่ลดลงประมาณ 2 เท่าหลังจากถูกย่อยด้วยเอนไซม์เอนโด 1,3 เบต้า-ดี-กลูคาเนส โดยอย่างไรก็ตามควรมีการศึกษาสารองค์ประกอบอื่น และฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นที่สำคัญเพิ่มเติม เพื่อแนวทางในการใช้ประโยชน์ทางเครื่องสำอางต่อไป
Description:
การค้นคว้าอิสระ (วท.ม.) -- สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง, สำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, 2568