การศึกษาเปรียบเทียบระหว่างการใช้พลังลมฉีดสารไฮยาลูโรนิก และใช้เข็มตัดด้านใต้ ในการรักษาหลุมสิว

Abstract

สิวเป็นปัญหาใหญ่ที่ถึงแม้ว่าผู้ที่เป็นสิวจะไม่ได้มีอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่สิวสามารถทำให้เกิดปัญหาหลากหลายชนิดให้กับผิว การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลการรักษาในเรื่องของการตื้นขึ้นของแผลเป็นหลุมสิว จากการใช้พลังลมฉีดสารไฮยาลูโรนิก เปรียบเทียบกับการรักษาแผลเป็น หลุมสิวด้วยการใช้เข็มตัดด้านใต้ โดยวัดการตื้นขึ้นของหลุมสิวจากการประเมินจากผู้ทำการวิจัย และใช้เกณฑ์การวัดจาก Acne Scar Grading Scale (ECCA Score) และ Goodman and Baron’s Qualitative Acne Scar Grading System การวิจัยเป็นงานวิจัยเชิงทดลองทางคลินิกแบบไปข้างหน้า แบบสุ่มเลือก และปกปิดผู้ประเมินฝ่ายเดียว ในอาสาสมัครจำนวน 18 คน ซึ่งได้รับการรักษาแผลเป็นหลุมสิวโดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างใช้วิธี Pre-Planned และ Blocked Randomization โดยจะกำหนดด้านที่รักษาด้วยเครื่องอีเนอร์เจ็ท รุ่น 2.0 เทคโนโลยีเจวีอาร์ (Enerjet 2.0 JVR Technology) เป็นหลัก ถ้าจับฉลากได้ด้านใด แสดงว่าด้านนั้นจะทำการทดลองด้วยเครื่องอีเนอร์เจ็ท รุ่น 2.0 เทคโนโลยีเจวีอาร์ (Enerjet 2.0 JVR Technology) ส่วนอีกด้านจะทำการรักษาด้วย Nokor Needle Subcision การวิจัย พบว่า ที่ 16 สัปดาห์ ทั้งสองกลุ่มมีความตื้นของหลุมสิวไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อเปรียบเทียบในกลุ่มที่ใช้พลังลมฉีดสารไฮยาลูโรนิก กลับพบว่า ความตื้นของหลุมสิวในสัปดาห์ที่ 8 ลดลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ 4 โดยดีขึ้นมากถึงมากที่สุด (>75%) ร้อยละ 27.8 และเมื่อสิ้นสุดการรักษาที่ 16 สัปดาห์ การตื้นของหลุมสิวดีขึ้นปานกลางถึงมาก (51-75%) ร้อยละ 33.3 ดีขึ้นมากถึงมากที่สุด (>75%) ร้อยละ 38.9 ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยการใช้เข็มตัดด้านใต้ ความตื้นของหลุมสิวในสัปดาห์ที่ 8 ลดลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ 4 โดยดีขึ้นมากถึงมากที่สุด (>75%) ร้อยละ 22.2 และเมื่อสิ้นสุดการรักษาที่ 16 สัปดาห์ การตื้นของหลุมสิวดีขึ้นมากถึงมากที่สุด (>75%) ร้อยละ 44.4 ซึ่งสูงกว่าการรักษาด้วยการใช้พลังลมฉีดสารไฮยาลูโรนิก เมื่อสิ้นสุดที่ 16 สัปดาห์ พบว่า อาการข้างเคียงพบได้น้อย และมีระดับความพึงพอใจของอาสาสมัครสูง และแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ 4 ดังนั้นการใช้การใช้พลังลมฉีดสารไฮยาลูโรนิกทำงานโดยใช้แรงลมของอนุภาคกรดไฮยาลูโรนิก (Low Cohesivity Hyaluronic Acid with High G’) ที่มีมวลสูง อนุภาคของสารละลายเหล่านี้แทรกซึมเข้าสู่ชั้นหนังกำพร้าผ่านจุดเข้าผิวชั้นบนด้วยขนาดแผลที่มีขนาดเล็ก มีความปลอดภัยสูง และมีผลข้างเคียงน้อย สามารถใช้เป็นทางเลือกในการรักษาหลุมสิวได้