Abstract:
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา บริบทของการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ การเมือง
และการปกครอง สังคมและวัฒนธรรม เทคโนโลยีการสื่อสาร สิ่งแวดล้อม และการตลาด รวมถึง
ความพร้อมด้านการท่องเที่ยว (6A’s) ได้แก่ (1) สิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว (2) เส้นทางคมนาคม
เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว (3) สิ่งอำนวยความสะดวกในแหล่งท่องเที่ยว (4) การบริหารจัดการแหล่ง
ท่องเที่ยว (5) ที่พักในแหล่งท่องเที่ยว และ (6) กิจกรรมทางการท่องเที่ยวบนเส้นทาง R3A เพื่อกำหนด
ยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวบนเส้นทางยุทธศาสตร์ R3A (เชียงราย-คุนหมิง)
การดำเนินการวิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสม (Mixed methodology research) ด้วยการ
สัมภาษณ์แบบเชิงลึก (In-depth interviews) ผู้บริหารภาครัฐและเอกชน และผู้มีส่วนได้เสียจากการ
ท่องเที่ยว การสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม (Participant observation) และไม่มีส่วนร่วม (Nonparticipant observation)โดยใช้แบบสำ รวจความพร้อมด้านการท่องเที่ยว(6A’s)สำ หรับ
ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวภายในประเทศและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามา
ท่องเที่ยวบนพื้นที่กลุ่มเมืองท่องเที่ยวที่ศึกษา ได้แก่เมืองเชียงของ ประเทศไทย เมืองหลวงน้ำทา
สปป.ลาว และเมืองจิ่งหง เขตสิบสองปันนา จีน(ตอนใต้) การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์
เนื้อหา (Contents analysis) และ SWOT analysis สำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพและโปรแกรมวิเคราะห์สถิติทางสังคมศาสตร์ SPSS และการวิเคราะห์ช่องว่าง (Gap analysis) สำหรับข้อมูลเชิงปริมาณ จากการศึกษาพบว่า สถานการณ์ และแนวโน้มของการพัฒนาการท่องเที่ยวบนเส้นทางยุทธ
ศาสตร์ R3A (เชียงราย-คุนหมิง) ภายหลังการเปิดใช้ เส้นทาง R3A อย่างเป็นทางการ อยู่ในช่วงการ
ขยายตัวและมีแนวโน้มของอัตราการเจริญเติบโตด้านการท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องมาจากการ
พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งดึงดูดใจด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกใน
แหล่งท่องเที่ยว อีกทั้งความโดดเด่นของบริบทด้านต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงกัน ทั้งทางด้านสังคมและ
วัฒนธรรม เศรษฐกิจและการตลาดการท่องเที่ยว ซึ่งดึงดูดใจนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ภายใต้บริบท
ด้านการเมืองและการปกครอง เทคโนโลยีการสื่อสารและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็
ตามทั้ง 3 ประเทศ ก็ให้การสนับสนุนนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว
ร่วมกัน นอกจากนี้จากการศึกษาความพร้อมด้านการท่องเที่ยว (6A’s) พบว่า ยังมีความพร้อมอยู่ใน
ระดับปานกลางเท่านั้น มีเพียงเส้นทางคมนาคมเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว ที่มีความพร้อมอยู่ในระดับสูง
ในขณะที่ความพร้อมทางด้านสิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวกในแหล่ง
ท่องเที่ยว การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว ที่พักในแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยว
ยังคงมีความพร้อมอยู่ในระดับปานกลาง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาการ
ท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับนโยบายพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกันทั้งในเชิงรุก เชิงรับ เชิงป้องกันและ
เชิงแก้ไข ได้แก่ (1) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชียงของ หลวงน้ำทา และจิ่งหง
(2) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเส้นทางการเดินทางและการท่องเที่ยว (3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง
ศูนย์กลางธุรกิจการท่องเที่ยว (4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาความพร้อมด้านการท่องเที่ยว (6A’s) และ
(5) ยุทธศาสตร์การสร้างเครือข่ายการตลาดและพันธมิตรทางธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อรองรับการ
ขยายตัวทางด้านการท่องเที่ยวในอนาคต