Abstract:
ชาหลากหลายชนิดมีสารองค์ประกอบที่ให้ฤทธิ์ทางชีวภาพแตกต่างกัน การค้นคว้าวิจัยอิสระนี้ผู้วิจัยสนใจศึกษาและวิเคราะห์ผลของการเสริมฤทธิ์ที่ได้จากการผสมสารสกัดชาแต่ละชนิด โดยมีการเตรียมสารสกัดจากชาทั้ง 4 ชนิด ได้แก่ ชาเขียว ชาอู่หลง ชาดำ และ ชาขาว ด้วย 50% เอทานอล ศึกษาปริมาณสารประกอบฟีนอลิกรวม ปริมาณสารประกอบฟลาโวนอยด์รวม และ ฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH และ FRAP รวมไปถึงศึกษาการผสมสารสกัดชา 3 ชนิดที่มีฤทธิ์มากที่สุดเพื่อให้เกิดการเสริมฤทธิ์ทางชีวภาพ ในงานวิจัยนี้ได้นำผงชาทั้ง 4 ชนิด มาทำการสกัดด้วย 50%
เอทานอล อัตราส่วน 1:10 โดยใช้เครื่องเขย่าคลื่นเสียงอัลตราโซนิค (40 kHz) ที่อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที จากนั้นกรองด้วยระบบน้ำไหลผ่าน และนำสารสกัดที่ได้ไประเหยด้วยเครื่องระเหยสุญญากาศแบบหมุน (rotary evaporator) ที่อุณหภูมิ 40-50 องศาเซลเซียส ผลการศึกษาพบว่าสารสกัดชารูปแบบเดี่ยวที่ให้ปริมาณสารประกอบฟีนอลิกรวม และมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระที่ทดสอบด้วยวิธี DPPH (IC50) และ FRAP มากที่สุด คือ ชาขาว มีค่าเท่ากับ 750.15 ± 12.54 mg GAE/g extract, 43.409 ± 2.209 µg/mL และ 9,173.38 ± 29.47 mg TEAC/g extract ตามลำดับ สารสกัดชารูปแบบผสมที่ให้ปริมาณสารประกอบฟีนอลิกรวม และมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระที่ทดสอบด้วยวิธี DPPH (IC50) และ FRAP มากที่สุด คือ การผสมชาเขียว ชาขาวและชาอู่หลง มีค่าเท่ากับ 793.08 ± 23.28 mg GAE/g extract, 66.007 ± 11.450 µg/mL และ 8,337.27 ± 142.11 mg TEAC/g extract ตามลำดับ นอกจากนี้สารสกัดชารูปแบบเดี่ยว และรูปแบบผสมที่ให้ปริมาณสารประกอบฟลาโวนอยด์รวมมากที่สุด คือ ชาเขียว และ การผสมชาเขียวและชาขาว มีค่าเท่ากับ 11,006.02 ± 195.94 และ 18,668.67 ± 474.24 mg QE/g extract ตามลำดับ จากผลการทดลองพบว่าชาดำมีปริมาณสารประกอบฟีนอลิกรวม สารประกอบฟลาโวนอยด์รวม รวมถึงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ DPPH และ FRAP ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับชาทั้งหมด จึงไม่นำมารวมในการศึกษาการผสมชารูปแบบต่าง ๆ ดังนั้น ชาขาว และ การผสมชาเขียว ชาขาวและชาอู่หลง มีศักยภาพเป็นสารสกัดสำคัญที่สามารถเพิ่มมูลค่าในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ ช่วยเสริมฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางหรืออุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้ในอนาคต
Description:
การค้นคว้าอิสระ (วท.ม.) -- สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง, สำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, 2567