ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่มีผลต่อความเข้มแข็งของชุมชนจังหวัดตราด

Abstract

การวิจัยเรื่อง ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่มีผลต่อความเข้มแข็งของ ชุมชนจังหวัดตราดในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความเข้มแข็งของชุมชนในจังหวัดตราด (2) ศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองกับความเข้มแข็งของ ชุมชน และ (3) ศึกษาปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อความเข้มแข็งของชุมชน โดยมีขอบเขตการวิจัย ด้าน พื้นที่ ได้แก่ หมู่บ้านในจังหวัดตราด จำนวน 152 หมู่บ้าน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถาม ที่สร้างขึ้นตามกรอบแนวคิดการวิจัย แบ่งเป็น 3 ตอน ประกอบด้วย ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของชุมชน เป็นแบบสอบถามแบบตรวจสอบรายการ ตอนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้มแข็งของชุมชน และ ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองของชุมชน เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วน ประมาณค่า 5 ระดับ และทดสอบความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม โดยมีค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่า ตาม สูตรของครอนบาค ดังนี้ ด้านตัวแปรเกณฑ์ คือ ความสามารถในการพึ่งตนเอง ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .869 ความปลอดภัยในชุมชน ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .887 การมีวิสัยทัศน์ของชุมชน ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .897 ความรักและหวงแหนชุมชน ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .952 ด้านตัวแปรทำนาย คือ ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .949 ปัจจัยพื้นฐานทางสังคม ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .950 ปัจจัยพื้นฐานทางการเมือง ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ .947 และตอนที่ 3 เป็นคำถามปลายเปิด ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับความเข้มแข็งชุมชน สถิตที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และค่าสัมประสิทธิ์ การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัย ภาพรวมความเข้มแข็งของชุมชนในจังหวัดตราด มีอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นราย ด้านเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านความมั่นคงปลอดภัยของชุมชน ด้านการมีวิสัยทัศน์ ของชุมชน ด้านความรักและหวงแหนชุมชน และด้านความสามารถในการพึ่งตนเอง ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ปัจจัยพื้นฐานทางสังคม และปัจจัยพื้นฐานทางการเมือง มี ความสัมพันธ์กับความเข้มแข็งของชุมชนในระดับมาก มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.764, .816 และ .767 ตามลำดับ ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง สามารถร่วมกันทำนายความเข้มแข็งของ ชุมชนในจังหวัดตราดโดยภาพรวมได้ร้อยละ 71.70 เมื่อพิจารณาเป็นรายปัจจัย พบว่า ปัจจัยพื้นฐาน ทางเศรษฐกิจสามารถทำนายความเข้มแข็งของชุมชนในจังหวัดตราด ได้ร้อยละ58.30 ปัจจัยพื้นฐาน ทางสังคม สามารถทำนายความเข้มแข็งของชุมชนในจังหวัดตราด ได้ร้อยละ 66.60 และปัจจัยพื้นฐาน ทางการเมือง สามารถทำนายความเข้มแข็งของชุมชนในจังหวัดตราด ได้ร้อยละ 58.80 และพิจารณาตัว แปรย่อยพบว่า ตัวแปรด้านการจัดระเบียบสังคมของชุมชนในปัจจัยทางสังคม มีค่าสัมประสิทธิ์การ ทำนายความเข้มแข็งของชุมชนในภาพรวม มากที่สุด รองลงมา คือ ตัวแปรด้านการบูรณาการความรู้ ในการผลิต และความเข้มแข็งของกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในปัจจัยทางเศรษฐกิจตามลำดับ